ความเคลื่อนไหวของผู้มีความรู้ทางด้านภาษาญี่ปุ่นและแนวโน้มของผู้สมัครงานในประเทศไทย

ประเทศไทย

สัดส่วนบุคลากรทางภาษาญี่ปุ่น。

จากผลสำรวจของมูลนิธิญี่ปุ่นในปี 2015 พบว่า ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทยมีจำนวน 174,000 คนโดยประมาณ ซึ่งจัดอยู่ในอันดับ 6 ของโลก

ในปัจจุบันผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นในไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับผลสำรวจในปี 2012 มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1 นอกจากนี้จำนวนสถาบันการศึกษาภาษาญี่ปุ่นและจำนวนอาจารย์ภาษาญี่ปุ่น ยังมีอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30%

เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลในปี 2012  ที่มีจำนวนผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นคิดเป็นร้อยละ 15.4 % แล้วเราสามารถประเมินได้ว่ามีจำนวนนักเรียนภาษาญี่ปุ่นในระดับอุดมศึกษาประมาณ 27,000 คน ยิ่งไปกว่านั้น จากผลสำรวจในปี 2015  โดย JASSO จำนวนนักศึกษาชาวต่างชาติที่ศึกษาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนทั้งสิ้น 3,526 คน ซึ่งคนเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ผ่านการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น N2

คุณค่าของภาษาญี่ปุ่น

จากผลสำรวจในช่วงเดือนเมษายนของฺTeikoku Data Bank ในปี 2016 พบว่าบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทยมีจำนวนมากถึง 4,788 บริษัท ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีบริษัทญี่ปุ่นมากเป็นอันดับต้นๆของอาเซียน ยิ่งไปกว่านั้นเงินเดือนของพนักงานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับพนักงานที่ใช้ภาษาอังกฤษนั้นมีจำนวนต่างกันถึงร้อยละ 30-40 ตัวอย่างเช่น ทางบริษัทเสนอเงินเดือนให้ผู้มีใบสอบวัดระดับ N2 เป็นจำนวน 50,000-80,000 บาทและในระดับN1 สูงถึง 80,000-100,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบัณฑิตจบใหม่ผู้มีความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นในระดับ N3 จำนวนมากที่มีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อพัฒนาความสามารถทางด้านภาษา คนเหล่านั้นถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการเช่นกัน

ความเคลื่อนไหวของผู้สมัครงาน

ช่วงเวลาจบการศึกษาของนักศึกษาในประเทศไทยมีความแตกต่างกันตามแต่ละสถาบัน ช่วงเวลาที่นักศึกษามองหางานจึงมีอยู่ตลอดทั้งปี ในปัจจุบันช่องทางหางานของนักศึกษาเหล่านี้มักจะมาจาก“เว็บไซด์บริษัทหรือนิตยสารสำหรับหางาน”,“การแนะนำจากคนรู้จักหรือครอบครัว”หรือ“แนะนำจากทางมหาวิทยาลัย” เป็นต้น และนักศึกษาบางกลุ่มเลือกที่จะมองหางานระหว่างศึกษาอยู่หรือมองหางานหลังกลับภูมิลำเนาเดิม

ด้านการเปลี่ยนงานพบว่าจำนวนการเปลี่ยนงานของผู้สมัครในช่วงอายุ 20-30 ปี มีจำนวนมาก โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.54 ครั้งต่อคน (จากผลวิจัยของทาง Recruit Work Institute) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้สมัครเหล่านี้มักจะหางานจากการใช้บริการสำนักงานจัดหางานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวมไปถึงการมองหางานจากสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ (นิตยสารสำหรับหางาน, ใบปลิวสมัครงาน ฯลฯ) โดยสาเหตุหลักของการเปลี่ยนงานนั้นมักจะมาจาก จำนวนเงินเดือนไม่เพียงพอกับความต้องการหรือเงื่อนไขการทำงานและสถานที่ทำงานไม่ตรงกับความต้องการ เป็นต้น

สำหรับข้อมูลการสมัครงานหรือข้อมูลอื่นๆสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Japanese-jobs.com（https://th.japanese-jobs.com/en/）